อัลฟ่า-ไลโปอิค แอซิค (Alpha-Lipic Acid)
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี เมื่อทานควบคู่กับกลูต้าไธโอน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกลูต้าไธโอนให้ดียิ่งขึ้น อัลฟ่าไลโปอิคจึงถูกขนานนามกันว่าเป็น "สารเร่งความขาว" นอกจากนั้ยังช่วยทำให้สารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น วิตามินซี, สารสกัดเมล็ดทับทิม, สารสกัดเมล็ดองุ่น เป็นต้น ช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากการทำลายโดยรังสี UVB นั่นก็คือช่วยป้องกันแสงแดดนั่นเอง

สารสกัดจากเมล็ดทับทิม (Pomegranate Seed Extract)
มีสารประกอบของ Ellagic acid, Phytosterol Ellagic acid ที่มีฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีที่ทำให้สีผิวที่เข้มขึ้น โดยลดการทำงานของเอ็นไซม์ tyrosinase ช่วยลดเลือนฝ้า จุดด่างดำ และรอยหมองคล้ำ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ช่วยชะลอริ้วรอย ทำให้ผิวกระชับ และทำให้สีผิวสม่ำเสมอขึ้น , Phytosterol ช่วยลดการอักเสบและป้องกันผิวไม่ให้ถูกทำลายด้วยแสงแดด เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว

สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract)
หรือ OPC (Oligomeric ProanthoCyanidin) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “Super Anti-Oxidant” เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงในการต่อต้านอนุมูลอิสระ มีฤทธิแรงกว่าวิตามินซีถึง 20 เท่าและแรงกว่าวิตามินอีถึง 50 เท่า ช่วยป้องกันคอลลาเจน และอีลาสตินไม่ให้ถูกสารอนุมูลอิสระทำลาย จึงช่วยทำให้ผิวพรรณกระชับเต่งตึง ชะลอความแก่ ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น นอกจากนี้สารสกัดจากเมล็ดองุ่นยังช่วยยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีผิวเมลานินที่ผิดปกติไป ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิด ฝ้า กระ จุดด่างดำ ให้จางหายไป และลดปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอกัน ปรับสีผิวให้เนียนใส เปล่งปลั่ง

วิตามินซี (Vitamin C)
ช่วยปกป้องผิวจากการทำลาย ทำให้ผิวพรรณไม่แห้งเหี่ยว และยังดูอ่อนเยาว์อยู่ เนื่องจากวิตามินซี จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดของผิว ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นดีขึ้น แผลเป็นตื้นขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยยับยั้งการทำงานที่ผิดปกติของเม็ดสี จึงทำให้ลบรอยดำ รอยหมองคล้ำได้เป็นผลให้ผิวขาวเนียนใส

วิตามินอี (Vitamin E)
เป็นวิตามินที่ได้รับการยอมรับในวงการแพทย์มานาน ซึ่งจะช่วยปกป้องเซลล์ต่างๆไม่ให้ถูกทำลายและชะลอความเสื่อมของเซลล์ด้วย เช่นเซลล์ของระบบหลอดเลือด สมอง และเซลล์ผิวหนัง ช่วยป้องกันผิวแห้งกร้านได้
